วันพฤหัสบดีที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

ยาเสพติดให้โทษ...จริง ๆ นะ


              ในยุคที่ยาเสพติดเป็นสินค้าขายดีอันดับต้น ๆ ของไทย จนกลายเป็นปัจจัยที่ห้าของใครบางคนไปแล้ว ก็เลยเกิดความสงสัยว่า คำว่า “ยาเสพติดให้โทษ” เนี่ย มันยากที่จะเข้าใจตรงไหน หรือคนเขาเข้าใจว่ามันเป็นเรื่องหลอกเด็ก!!!

ถ้าสำหรับคนขายก็เข้าใจได้นะว่า เขาต้องการเงิน โดยไม่สนใจว่า เงินที่ได้มา จะทำให้คนอื่นเป็นตายร้ายดียังไง ขอเพียงแค่ตัวเองมีเงินไปอวดร่ำอวดรวยกับคนที่ติดตามในเฟสบุ๊คก็พอ ไม่มีใครสนใจหรอกว่าคนพวกนี้รวยมาได้ยังไง หรือเขาเอาเงินมาจากไหนตั้งมากมาย

ไหน ใครติดยาแล้วชีวิตดี๊ดี ยกมือขึ้น!!!

ไม่แน่นะ อาจมีคนยกมือขึ้นจริง ๆ ก็ได้ ถ้าเขาอยู่คนเดียวตอนนี้ หรือ อยู่กับพวกเดียวกันเอง แต่จะมีใครสักคนมั้ย ที่ติดยาอยู่แล้วกล้าเปิดเผยตัวเองกับสาธารณะ

อันที่จริง เท่าที่สังเกตดู คนในครอบครัวของคนที่ติดยาจำนวนหนึ่ง ก็ทราบดีว่า ลูกหลานตัวเองติดยา แต่ก็ไม่ทำอะไรให้ดีขึ้น ต้องรอให้มาฆ่าคนก่อน ถึงจะรู้สำนึกว่าน่าจะแก้ปัญหาตั้งนานแล้ว

แต่ถ้าบริษัทห้างร้านไหนทราบว่าพนักงานของตนติดยาเสพติด เขาก็ไม่เอาไว้แน่ เพราะเขาทราบดีว่า

-         ยาเสพติดเป็นยาหรือสารที่ออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท ทำให้มีความผิดปกติที่ระบบประสาทส่วนกลาง เมื่อเสพไปแล้วก็จะเกิดอาการติดยา ต้องทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ยาหรือสารนั้น ๆ มาเสพ ใครว่าเหล้าเป็นน้ำเปลี่ยนนิสัย ยาเสพติดนี่เปลี่ยนคนให้กลายเป็นคนใหม่ (ที่แย่กว่าเก่า) ไปเลย

-             คนที่ติดยาจะไม่สามารถปฏิบัติงานได้ตามปกติ ไม่มีสมาธิในการทำงาน จากที่เคยเป็นคนมีความสามารถ แต่หลงผิดไปติดยา ก็กลายเป็นคนที่ทำงานบกพร่องมากขึ้น (บางคนอาจเข้าใจว่า เป็นเพราะตัวเองไม่ได้เสพยา เลยทำงานไม่ได้ แต่ที่จริงมันผิดตั้งแต่เริ่มไปเสพยาแล้ว) และต้องใช้ยามากขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อให้ใช้ชีวิตประจำวันได้ ขณะเดียวกัน สุขภาพก็จะเสื่อมลง ประสาทเริ่มหลอนมากขึ้น เข้าใจว่าคนโน้นคนนี้จะมาฆ่า ก็คนมันกำลังจะไปลงนรกแล้ว เจ้ากรรมนายเวรก็เลยรีบมาทวงหนี้กรรมก่อนที่จะไม่มีโอกาสไง

ที่บ่นมาทั้งหมดนี้ก็เพราะรู้สึกว่าสังคมมันเสื่อมลงในอัตราเร่งแล้วตอนนี้ และยาเสพติดก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดอาชญากรรมขึ้นมากมาย ซึ่งต้นตอของการเสพยาของแต่ละคนก็มีที่มาที่ไปจากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาครอบครัว พ่อแม่ไม่สั่งสอน คบเพื่อนผิด ฯลฯ แต่ที่อยากจะบอกคือ ไม่ว่ารอบตัวเราจะมีปัญหามากมายเพียงใด ถ้าเรารักตัวเราเองมากพอ เห็นคุณค่าของตัวเราเอง และก็รู้อยู่แล้วว่า “ยาเสพติดให้โทษ” แล้วจะไปเสพมันหาอะไร มันช่วยแก้ปัญหาได้มั้ย... ไม่ได้เลย มีแต่จะหาปัญหามาเพิ่ม

ทุกคนมีปัญหาส่วนตัวด้วยกันทุกคน แต่ใครจะรับมือกับปัญหาได้ดีแค่ไหน เป็นเรื่องที่สามารถพิสูจน์ให้เห็นเลยว่า ใครเข้มแข็งกว่ากัน ถ้าคิดให้ดีก็จะพบว่า คนทุกคนมองว่าปัญหาของตัวเองใหญ่กว่าปัญหาของคนอื่นเสมอ เพราะเราต้องอยู่กับปัญหานั้นตลอดเวลา ตราบใดที่เรายังไม่สามารถหาทางออกได้ เราก็จะหมกมุ่นอยู่กับมัน เมื่อเวลาผ่านไป บางคนก็เรียนรู้ที่จะอยู่กับปัญหานั้น ๆ จนกว่าจะหาทางออกได้ เริ่มชินชากับปัญหา หรือ เลี่ยงปัญหาไปซะ ไม่ว่าจะเป็นข้อไหน ก็ไม่อยากให้ใช้ยาเสพติดเป็นทางออก ไม่ว่าจะผันตัวไปเป็นคนขาย รับจ้างเขาขนยา หรือไปเสพยาเสียเอง

อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว ไม่รู้ว่าคนอ่านจะรู้สึกเหมือนผู้เขียนมั้ยว่า คนที่ซื้อยามาเสพเป็นเหยื่อของคนขายยา เขาหากินกับความอ่อนแอ ความโง่ ความหลงผิดของตัวเองแท้ ๆ